lbbikecycle

 ศูนย์รวมจักรยาน ที่มีให้คุณเลือกหลายแบบหลายสไตล์
 คัดเฉพาะรุ่นที่มีคุณภาพเท่านั้น และขายในราคาถูกสุดๆ
 เก็บเงินปลายทางได้ สินค้าสั่งง่าย ส่งเร็ว ได้ของชัวร์
 หมดห่วงเรื่องบริการหลังการขาย ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี ที่พร้อมดูแลและให้คำปรึกษาคุณลูกค้าอย่างทั่วถึง

ประเภทของจักรยาน

     ทุกวันนี้จักรยานเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในทุกเพศ และทุกวัย เพราะสามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกาย ใช้เป็นพาหนะช่วยในการเดินทาง รวมทั้งยังใช้ปั่นในท่องเที่ยวแบบชิลๆได้ด้วย นอกจากนี้ยังการปั่นจักรยานยังช่วยประหยัดพลังงาน จึงช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกทางด้วย

      แต่จักรยานที่ทุกคนรู้จักยังแบ่งได้เป็นหลายประเภท ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อใช้งานที่แตกต่างกัน และหลายคนยังไม่ทราบว่าจักรยานที่เราต้องการจริงๆนั้นเป็นแบบไหน ทางร้านจิระพาณิชย์ จึงขอบอกรายละเอียดของจักรยานแต่ละประเภทให้ผู้ที่อยากได้จักรยานสักคันได้ทราบกัน เพื่อจะได้เลือกจักรยานคู่ใจได้อย่างเหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานของเรา

1. จักรยานเสือภูเขา (Mountain Bike)


     จักรยานชนิดได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เหมาะสำหรับใช้งานแบบสมบุกสมบัน ขึ้นเขา ลุยทางวิบาก โดยลักษณะเด่นของจักรยานเสือภูเขา ก็คือตัวถังและล้อจะมีขนาดใหญ่ แฮนด์ตรง มีเกียร์เพื่อทุ่นแรง และมีโช๊คอัพช่วยลดแรงกระแทง ซึ่งจักรยานเสือภูเขายังสามารถแบ่งออกได้อีก 3 ประเภท ตามชนิดของอุปกรณ์ ดังต่อไปนี้

– จักรยานเสือภูเขาแบบฮาร์ดเทล (Hard Tall)  

    จักรยานเสือภูเขาที่มีโช๊คอัพที่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังจะไม่มีระบบกันสะเทือน ซึ่งเป็นที่นิยมมากเนื่องจากราคาไม่แพง เหมาะกับการใช้งานบนถนนราบเรียบและทางวิบากที่ไม่หนักมากนัก 

– จักรยานเสือภูเขาแบบฟูลซัลเพนชั่น (Full Suspension)

     จักรยานเสือภูเขาที่ติดตั้งโช๊คอัพทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้ใช้งานแบบสมบุกสมบันได้มากขึ้น สามารถรับรองแรงกระแทกได้มากกว่าแบบฮาร์ดเทล (Hard Tall)

– จักรยานเสือภูเขาแบบดาวน์ฮิลล์ (Down Hill)

     จักรยานเสือภูเขาพันธุ์แท้ที่ถูกออกแบบมาให้ทนต่อแรงกระแทกได้มากทีสุด เหมาะกับการใช้งานแบบสมบุกสมบันและทางวิบากแบบสุดๆ ด้วยลักษณะเฟรม(ตัวถัง)ที่ใหญ่มาก ระบบกันกระแทกที่แข็งแรง และอุปกรณ์ต่างๆที่แน่หนา ทำให้มีน้ำหนักเยอะ หลายคนจึงใช้จักรยานชนิดนี้เพื่อลุยป่าเท่านั้น

2. จักรยานเสือหมอบ (Road Bike)

    จักยานชนิดนี้เป็นที่นิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานบนถนนทางเรียบ ทำความเร็วในการปั่นได้สูงถึง 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักปั่นที่ชื่นชอบความเร็ว โดยลักษณะของจักรยานเสือหมอบ จะมีล้อและยางขนาดเล็ก ตัวเฟรม(ตัวถัง)มีทรงลู่ลม แฮนด์จักรยานจะโค้งและต่ำกว่าที่นั่ง เพื่อให้สามารถนั่งในท่าที่ลดแรงปะทะลมได้

3. จักรยานไซโครคลอส (CycloCross)

     จักรยานที่ออกแบบโดยใช้เฟรม(ตัวถัง)เหมือนจักรยานเสือหมอบ แต่ใส่ยางและอุปกรณ์บางอย่างที่เหมือนจักรยานเสือภูเขา จึงสามารถปั่นได้เร็วในทางวิบาก โดยปกติแล้วจักรยานไซโครคลอสตัวเฟรม(ตัวถัง)จะใช้วัสดุอย่างดีและน้ำหนักเบา เช่น อลูมิเนียมอัลลอยด์หรือตาร์บอนไฟเบอร์ จึงทำให้ราคาสูงมากกว่าจักรยานทั่วไป

4. จักรยานไฮบริด (Hybrid Bike)

    จักรยานลูกผสมระหว่างจักรยานเสือภูเขาและจักรยานเสือหมอบ ซึ่งจะเอาจุดเด่นมาผสมกันให้ใช้งานได้กว้างขึ้น โดยลักษณะของจักรยานไฮบริด จะใช้เฟรม(ตัวถัง)และแฮนต์ตรงเหมือนกับจักรยานเสือภูเขา เพื่อให้ท่านั่งที่มั่นคงและใช้งานสมบุกสมบันได้ ขอบล้อเป็นขนาด 700C เหมือนจักรยานเสือหมอบเพื่อให้ได้ความเร็วที่ดี นอกจากนี้จะใช้ชุดเกียร์เหมือนจักรยานเสือภูเขาซึ่งจะช่วยทุ่นแรงในการปั่นขึ้นในทางชันได้ดี 

5. จักรยานล้อโต (Fat Bike)

     จักรยานที่มีขนาดยางใหญ่กว่าจักรยานชนิดอื่นๆ ซึ่งได้รับการออกแบบสำหรับการขี่ในทุกสภาพถนน เพราะจักรยานชนิดนี้จะมีล้อและยางที่ใหญ่ นอกจากนี้จักรยานล้อโตจะถูกสร้างขึ้นด้วยเฟรม(ตัวถัง)ที่แข็งแรงทนทาน และมีขนาดใหญ่เพื่อที่จะใหญ่งานที่สมบุกสมบันได้ดี

6. จักรยานทั่วร์ริ่ง (Touring Bike)

    จักรยานเพื่อใช้สำหรับการปั่นท่องเที่ยวระยะไกล โดยลักษณะเด่นของจักรยานทั่วริ่ง คือ เฟรม(ตัวถัง)และแฮนด์จะคล้ายกับจักรยานเสือหมอบ แต่ออกแบบให้มีท่านั่งที่สบายกว่า  มีจุดยึดที่แข็งแรงสำหรับบรรทุกสัมภาระมากกว่าจักรยานประเภทอื่น ยางขนาดไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป ระบบเกียร์ใช้เหมือนจักรยานเสือภูเขา เพราะไม่ต้องใช้ความเร็วและความต่อเนื่องในการเข้าเกียร์มากนัก 

7. จักรยานพับได้ (Folding Bike)

     จักรยานที่เพิ่มข้อต่อพับที่จุดต่างๆ เพื่อให้จักรยานสามารถพับเก็บให้ขนาดเล็กลงได้ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีจักรยานที่ง่ายต่อการพกพา นอกจากนี้จักรยานพับได้ยังเป็นจักรยานชนิดเดียวที่อนุญาตให้นำขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน

8. จักรยานฟิกเกียร์ (Fixed Gear)

     ถือเป็นจักรยานที่นิยมมากในหมู่วัยรุ่น เหมาะสำหรับปั่นในเมือง ลักษณะของเด่นของจักรยานฟิกเกียร์คือ ไม่มีเกียร์ ขับเคลื่อนด้วยจานหน้าและเฟืองหลังเท่านั้น ไม่สามารถปล่อยล้อฟรีแบบจักรยานทั่วไปได้ เบรคด้วยการใช้เท้ายึดกับบันไดเท่านั้น เนื่องจากจักรยานฟิกเกียร์สามารถตกแต่ง เพิ่มสีสัน ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ได้หลากหลาย และยังมีราคาที่ไม่แพง จึงทำให้เป็นจักรยานฟิกเกียร์ครองใจวัยรุ่นในปัจจุบัน  

9. จักรยานซิงเกิล สปีด (Single Speed)

     จักยานที่มีลักษณะคล้ายๆจักรยานฟิกเกียร์เกือบทุกประการ แต่ที่แตกต่างคือสามารถปล่อยล้อฟรีได้ และยังได้เพิ่มเบรคมาด้วย จึงทำให้ปั่นได้ง่ายและสะดวกมากกว่า

10. จักรยานมินิ (Mini Bike)

    จักรยานประเภทนี้มีจุดเด่นด้วยขนาดของเฟรม(ตัวถัง)ที่เล็กกว่าจักรยานชนิดอื่นๆ และวงล้อที่ขนาดไม่เกิน 20 นิ้ว แต่ก็มีลักษณะการใช้งานที่ใกล้เคียงกับจักรยานขนาดใหญ่ทั่วไป ทั้งนี้เป็นเพราะระบบเกียร์และระบบขับเคลื่อนคล้ายๆกับจักรยานเสือเสือหมอบ ซึ่้งให้ความเร็วได้อย่างดี และด้วยขนาดจักรยานที่เล็กแต่ความเร็วที่ไม่ตกง่ายๆ จึงทำให้จักรยานมินิ นิยมปั่นกันในเมืองกันมากขึ้น

11. จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ (BMX)

    หากพูดถึงการแข่งขันกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ผู้เล่นจะได้ใช้อุปกรณ์ต่างๆ พาตัวเองไปวาดลวดลายที่สวยงามกลางอากาศแล้ว จักรยานประเภทหนึ่งที่ถูกบรรจุลงในการแข่งขันอย่างเป็นทางการแล้วก็คือจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์นั่นเอง ซึ่งจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์เป็นจักรยานขนาดเล็ก มีความแข็งแกร่งสูง สามารถขี่ได้แม้ในทางวิบากแบบสุด ๆ ตัวรถเรียบง่ายไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ มากนัก และแฮนด์หน้าสามารถหมุนรอบได้ 360 องศา ช่วยให้บังคับรถและเล่นท่าได้หลากหลาย

12. จักรยานแม่บ้าน

     จักรยานชนิดนี้พบได้ทั่วไปตามหน้าตลาดนัด จักรยานแม่บ้านถูกออกแบบมาให้ขี่ง่าย บังคับเลี้ยวสะดวก ตัวรถทำจากเหล็กที่มีความแข็งแรงทนทาน และออกแบบเพื่อให้รับน้ำหนักได้มากกว่าจักรยานแบบอื่น ๆ รวมทั้งอาจมีตะกร้าหรือเบาะนั่งเพิ่มเติมแล้วแต่การใช้งาน จึงทำให้จักรยานแม่บ้านนั้นหนักกว่าจักรยานทั่วไปมากทีเดียว ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวประกอบกับราคาไม่แพงจึงเป็นที่นิยมสำหรับผู้ใช้ทั่วไปตลอดมาจนปัจจุบัน

    ช่องทางติดต่อเรา

 Tell  : 088-119-3982
 Line ID
  : @lbbikecycle
 Email
  : [email protected]

ที่อยู่ : 42/3 – 42/4 ถนนเทศบาล 4 บัวใหญ่ นครราชสีมา 30120